เมนู

[993] อินทรีย์ 2 ประการเป็นไฉน. คือ ปัญญาอันเป็นอริยะ 1
วิมุตติอันเป็นอริยะ 1 ก็ปัญญาอันเป็นอริยะของภิกษุนั้น เป็นปัญญินทรีย์
วิมุตติอันเป็นอริยะของภิกษุนั้น เป็นสมาธินทรีย์.
[994] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะความที่อินทรีย์ 2 ประการนี้แล
อันตนเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ภิกษุผู้ขีณาสพย่อมพยากรณ์อรหัตผล
ได้ว่า เรารู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว . .. กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
จบทุติยปุพพารามสูตรที่ 6

7. ตติยปุพพารามสูตร



ว่าด้วยอินทรีย์ 4



[995] นิทานนั้นเหมือนกัน. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะความที่อินทรีย์เท่าไรหนอ อันตนเจริญแล้ว
กระทำให้มากแล้ว ภิกษุผู้ขีณาสพย่อมพยากรณ์อรหัตผลได้ว่า เรารู้ชัดว่า
ชาติสิ้นแล้ว ....กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรมทั้งหลายของพวกข้าพระองค์ มีพระผู้มีพระภาคเจ้า
เป็นแบบอย่าง ฯลฯ
[996] พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะความที่อินทรีย์ 4 ประการ
อันตนเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ภิกษุผู้ขีณาสพย่อมพยากรณ์อรหัตผล
ได้ว่า เรารู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว.... กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
[997] อินทรีย์ 4 ประการเป็นไฉน คือ วิริยินทรีย์ 1 สตินทรีย์ 1
สมาธินทรีย์ 1 ปัญญินทรีย์ 1.